ต้นถั่วดาวอินคา
ซึ่งเป็นพืชที่มีถิ่นกำเนิดในประเทศเปรูกำลังเป็นที่สนใจในอุตสาหกรรมอาหาร และอาหารเสริม เพราะอุดมไปด้วยวิตามินอีและกรดโอเมก้า ที่มีประโยชน์
วิธีปลูกและสถานที่ปลูก
-ปลูกได้ในทุกภาคของประเทศไทย
-ต้องปลูกโดยระบบเกษตรอินทรีย์ (ไม่ใช้สารเคมี)
-ต้นมีอายุยืนยาวตั้งแต่ 15-50 ปี ขึ้นอยู่กับการดูแล
-ระยะห่างระหว่างต้น 2 x 2 เมตร 1 ไร่ประมาณ 250 - 300 ต้น
-ระยะเวลาเก็บเกี่ยวผลผลิต ประมาณ 10-12 เดือน นับจากลงกล้าปลูก (ให้ผลตอบแทนสูงมาก,ดูแลง่าย)
-ราคาต้นกล้า 40 บาทต่อต้น , เมล็ดพันธุ์ ราคา 10 บาทต่อเมล็ด
-ราคารับซื้อ ดอกหรือฝักแก่ 30 บาทต่อกิโลกรัม
ประโยชน์ของต้นถั่วดาว
ใบของต้นถั่วดาวอินคา : สามารถนำไปทำเป็นใบชาหรือนำไปสกัดเป็นคลอโรฟิลล์ ซึ่งมีคุณค่ามากกว่าคลอโรฟิลล์ทั่วๆ ไปถึง 200 เท่า , สกัดน้ำจากใบเป็นน้ำเพื่อสุขภาพ
ดอกหรือฝักต้นถั่วดาวอินคา : นิยมนำมาสกัดเป็นน้ำมัน ซึ่งมีประโยชน์สำหรับมนุษย์มี เพราะมีโอเมก้า 3 6 9 และวิตามิน A E (นำมาบรรจุแคปซูล) , นำมาประกอบอาหารหรือทำน้ำสลัด ทางด้านความงานและอาหารเสริม เช่น โฟม สบู่ ครีมบำรุงผิว โลชั่น เป็นต้น ซึ่งเป็นที่ต้องการของต่างประเทศมาก ในปัจจุบัน
เปลือกของต้นถั่วดาว : นำมาเป็นปุ๋ยเกษตรอินทรีย์หรือจะอัดก้อน ใช้เป็นพลังงานความร้อน ชีวมวล อีกก็ได้
ทำไมต้องปลูกถั่วดาวอินคาหรือต้นเศรษฐี sacha inchi : เมื่อเทียบกับพืชเศรษฐ์กิจตัวอื่นๆ ต้นถั่วดาวอินคา จะให้ผลตอบแทนต่อไร่ที่สูงกว่าพืชตัวอื่นๆมาก (ให้ผลผลิต ดอกหรือฝัก 1-200,000 บาท/ไร่/ปี)และปัจุบันตลาดมีความต้องการดอกหรือฝักเป็นอย่างมากและก็ยังไม่เพียงพอกับความต้องการของตลาดและการปลูกแบบเกษตรอินทรีย์ ต้นถั่วดาวหรือต้นเศรษฐี sacha inchi จึงเป็นที่ต้องการของตลาดโลกและตลาด AEC เป็นอย่างมาก ปลูกเพียง 10 - 12 เดือน สามารถเก็บผักหรือดอก ขายได้แล้ว จึงเป็นที่มาชื่อต้นเศรษฐี โอเมก้าบนดิน ซึ่งลงทุนในระยะเวลาที่สั้น แต่สามารถเก็บเกี่ยวดอกหรือฝักได้ยาวนานถึง 50 ปี
จะเห็นได้ว่าประโยชน์ต้นถั่วดาวอินคาหรือต้นเศรษฐี sacha inchi มีประโยชน์ทุกๆส่วน แถมมีอายุยืนยาว จึงเป็นพืชเศรษฐ์กิจที่มีความสำคัญที่ภาครัฐและหน่วยงานที่รับผิดชอบ ที่จะต้องให้ความรู้และให้การสนับสนุน ทางด้านการเพาะปลูก การแปรรูป การตลาดเพื่อเพิ่มรายได้ให้กับเกษตรกรไทยที่จะต้องแข่งขัน สินค้าทางด้านการเกษตรได้และเพื่อที่รองรับตลาด AEC ในอีกไม่กี่ปีข้างหน้าและเราก็เป็นหนึ่งในสมาชิกนั้น
ต้นนี้คือต้นVolubilis Plukenetia
หรือนิยมเรียกกันว่าSacha Inchi หรือ ต้นถั่วดาวอินคา
ที่คนไทยเรียนว่าต้นถั่วดาวอินคา มาจากเมล็ดสด เหมือนรูปดาว
แต่ถิ่นกำเนิดของพืชชนิดนี้มาจากป่าอะเมซอนในเปรู
ต้นถั่วดาวอินคาเติบโตในสภาพอากาศอุ่น (10 ํ
C Min - 36 ํ C max) จะเจริญเติบโตในระดับความสูงตั้งแต่100 เมตร ถึง 2000 เมตร
จากระดับน้ำทะเล ช่วงชีวิต มีอายุถึง 10-50
ปีและเชื่อกันว่าพืชชนิดนี้มีอายุมากกว่า 3000ปี
ดอกจากต้นถั่วดาวอินคามี2เพศมีลักษณะต่างกัน ดอกตัวผู้มีขนาดเล็กสีขาวและอยู่เป็นกลุ่ม
ดอกเพศเมียจะอยู่ที่ ฐานของช่อดอก
ผลจากต้นถั่วดาวอินคาจะมีขนาด 3 ถึง 5 ซม. เส้นผ่าศูนย์กลาง 4-7
ผลสดจะเป็นสีเขียวและผลแก่จะเป็นสีน้ำตาลดำ ลักษณะของเมล็ดมีประมาณ 4-5 แฉก
แต่บางครั้งอาจมีได้ถึงเจ็ดแฉก
ภายในมีเมล็ดรูปไข่สีน้ำตาลเข้ม, มีขนาด1.5-2
ซม. จากเส้นผ่าศูนย์กลางและ หนักประมาณ 45-100 กรัม
และคล้ายกับอัลมอนด์ เมล็ดดิบกินไม่ได้ แต่หลังจากอบเปลือกจนสุกแล้ว
ก็สามารถทานได้
เมล็ดจากต้นถั่วดาวอินคา เมื่อแก่เต็มที
สามารถเอาเมล็ดมาสกัดออกมาเป็นน้ำมันได้ น้ำมันที่ได้ออกมามีองค์ประกอบ มีสูงโปรตีน
(27%) และน้ำมัน (35 - 60%) และในน้ำมันยังอุดมไปด้วยกรดไขมันจำเป็น
1.โอเมก้า 3 กรดไลโนเลนิ
(45-53%ของปริมาณไขมัน)
2.โอเมก้า 6 กรดไลโนเลอิก (34-39%
ของปริมาณไขมัน)
3.โอเมก้า 9 (6-10% ของปริมาณไขมัน)
4.ยังอุดมไปด้วยไอโอดีน
5.วิตามิน เอ
6.วิตามิน อี
น้ำมันจากเมล็ดถั่วดาวอินคา ได้รับการยอมรับในระดับนานาชาติสำหรับรสชาติและคุณสมบัติทางด้านสุขภาพ
ในเดือนมิถุนายนปี 2007 น้ำมันถั่วดาวอินคา ได้รับรางวัลMedaille
(เหรียญทอง)ในการแข่งขันอาหารพิเศษสินค้าโภคภัณฑ์ AVPA
น้ำมันถั่วดาวอินคาได้รับการเรียกว่า Super food
เพราะมีคุณสมบัติสูงมีกรดไขมันที่จำเป็น น้ำมันที่มีกลิ่นหอมอ่อน ๆ
ไม่รุนแรง
งานวิจัยใหม่ที่เน้นประโยชน์ต่อสุขภาพของกรดไขมันโอเมก้า,
ให้ความสนใจในแหล่งที่ยั่งยืนของโอเมก้าเพิ่มขึ้น น้ำมัน
ัถั่วดาวอินคาถูกนำมาใช้ในอาหารมังสวิรัติเพราะเพื่อให้ได้มากรดไขมันโอเมก้า
3
ประโยชน์ต่อสุขภาพของน้ำมันจากถั่วดาวอินคา1.ช่วยในการลดระดับคอเลสเตอรอลHDL
2.ป้องกันการแข็งตัวของเลือด โดยการรักษาระดับไขมันอิ่มตัวในกระแสเลือด ซึ่งจะช่วยลดความเสี่ยงของโรคหัวใจและความดันเลือดสูง
3.ช่วยลดระดับไตรกลีเซอไรด์และป้องกันความดันโลหิตสูง
4.ในโรคเบาหวาน / ช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด ลดอาการซึมเศร้า / สุขภาพจิตแจ่มใส
5.รักษาความลื่นไหลและความแข็งแกร่งของเยื่อหุ้มเซลล์
6.ช่วยลดการอักเสบของหลอดเลือดโรคไขข้อ
7.ช่วยดูแลโรคผิวหนัง หอบหืด แผล ไมเกรน ต้อหิน
8.มีสารต้านอนุมูลอิสระ ควบคุมความดันตาและเส้นเลือด
9.การตอบสนองของระบบภูมิคุ้มกันหน้าที่เป็นสื่อกลางขนส่งออกซิเจนเครือข่ายจากเซลล์ของเลือดไปยังเนื้อเยื่อของไตทำงานให้เหมาะสม
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น